ธุรกิจเครือข่าย VS แชร์ลูกโซ่

ธุรกิจเครือข่าย ต่างจาก แชร์ลูกโซ่ อย่างไร
ความเหมือน ที่แตกต่าง จนหลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นอย่างเดียวกัน 
แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งคิดเช่นนั้น ความจริงมันคนละอย่าง แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน
  มาลองศึกษาดูก่อนที่จะตัดสินใจกัน

ธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM นั้นมาจาก Muti-level Marketing  ธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือ ธุรกิจเครือข่าย เป็นการตลาดรูปแบบหนึ่งในการกระจายสินค้า จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคโดยตรง  โดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง  ทั้งพ่อค้าปลีก พ่อค้าส่ง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป  แต่จะกระจายสินค้าผ่านนักธุรกิจอิสระของบริษัทนั้น ๆ ด้วยวิธีการ บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพ ใช้ดีแล้วบอกต่อทำให้เกิดการบริโภคซ้ำ หรือจะเรียกว่าสร้างเครือข่ายผู้บริโภคก็ได้ โดยที่จะสามารถประหยัดงบประมาณในการโปรโมท โฆษณาสินค้าไปอีกทางหนึ่งด้วย




จากรูป จะเห็นได้ว่าได้ลดค่าใช้จ่ายในการผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั้ง ค้าส่งและค้าปลีก  บริษัทจะนำรายได้ส่วนนี้ 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามส่วนที่บริษัทกำหนดไว้  ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบธุรกิจแบบเดิม
  โดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัดจำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 – 3 คนและแต่ละคนของ 2 – 3 คนบอกต่อกับคน 2 – 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคแบบ ในลักษณะทวีคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด



แชร์ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินธุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อหารายได้จากการระดมทุนเป็นหลัก สามารถเรียกว่า เครือข่ายได้ แต่ไม่สามารถใช้คำว่าการตลาดแบบเครือข่าย เพราะ ไม่มีสินค้า ดังนั้น แชร์ลูกโซ่ จึงมีรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนในลักษณะที่ว่าเป็นการเอาเงินคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่า ซึ่งแบบนี้ก็ไม่สามารถที่จะหยุดได้ จึงต้องหาสมาชิกมาลงทุนอยู่ตลอด
          ในประเทศไทย ถือว่า แชร์ลูกโซ่ "ผิดกฎหมาย" จึงมีการแอบแฝง เอาสินค้าและบริการเข้ามาบวกกับแผนการจ่ายผลตอบแทน เพื่อทำให้ดูถูกกฎหมายมากขึ้น แต่ถึงแม้จะมีสินค้าและบริการนั้น ๆ แล้ว เนื้อแท้บริษัทเหล่านี้ก็ยังหนีไม่พ้นรูปแบบเดิม ๆ คือ การเอาเงินคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่า อยู่ดี

“แชร์ลูกโซ่” จะมีแผนรายได้ที่มาก ค่อนข้างหวือหวา และด้วยความหวือหวาของแผนรายได้นี้เองที่ทำให้คนที่ได้ฟังแผนรายได้ จากผู้ที่มาแนะนำให้ฟังเกิด “ความโลภ”  และทำให้มองข้ามคุณภาพของสินค้าไปทันที จิตใจมุ่งคิดถึงแต่ “รายได้”  จำนวนมหาศาลที่จะเกิดขึ้นจากการขยายสายงาน ซึ่งแน่นอนครับ หากเราสามารถสมัครคนเข้ามาในระบบได้ตามเป้าที่เค้าวางไว้ เค้าก็จะจ่ายเงินจำนวนนั้นจริง ๆ แต่เชื่อไหมครับ มีน้อยคนนักที่จะทำได้อย่างนั้น เพราะตัวสินค้ามันไม่สามารถขายตัวเองได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ รายได้ที่จะนำมาจ่ายให้สมาชิกสะดุด แล้วก็จะเกิด “ข่าวลบ” ตามมา  พอมาถึงตรงนี้ มันจะเกิดวัฐจักรอย่างนึงก็คือ ความน่าเชื่อถือในตัวธุรกิจน้อยลง ๆ คนใหม่ก็เริ่มไม่สมัครเข้ามาร่วมธุรกิจ คนเก่าเมื่อไม่เกิดรายได้อย่างที่หวังก็เริ่มไม่รักษายอด ไม่เกิดการซื้อซ้ำ และสุดท้าย ธุรกิจนี้ก็ล่มสลายไปตามวงจรอุบาทก์ที่เกิดขึ้น